วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

New technique to prepare for TOEIC test

การ สอบนั้นจะมี 2 part เหมือนเดิมครับ ได้แก่ Listening 100 ข้อ และ Grammar & Reading 100 ข้อ เรามาดูรายละเอียดกันทีละ part เลยนะครับ คะแนนเต็ม 990 คะแนน เช่นเคยครับ (Listening 495 คะแนน, Grammar & Reading 495 คะแนน)
Listening Comprehension
แบ่งออกเป็น 4 part ย่อย แต่ละ part เราจะมีโอกาสฟังเทปแค่ 1 รอบไม่มีซ้ำครับ ตั้งสติเอาไว้ให้มั่น นั่งนิ่งๆ อย่าวอกแวกเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าคนนั่งข้างๆเราอาจจะกำลังเอายางลบถูอย่างเมามันจนโต๊ะสะเทือน ก็อย่าไปสนใจ 5555 มีทั้งหมด 100 ข้อครับ ให้วลา 45 นาทีเท่านั้น (เร็วมากๆครับ แต่เราควบคุมได้ เพราะพอสิ้นเสียงเทปในแต่ละข้อ เราจะมีเวลาในการฝนคำตอบประมาณ 2-3 วินาที แล้วเสียงข้อต่อไปจะมาทันที ต้องฝนให้เร็วด้วยครับ)
Part I Photographs
ส่วนนี้ง่ายที่สุดในบรรดาข้อสอบทั้งชุด ดูรูปแล้วตอบ เราต้องใช้สายตาสแกนไปให้ทั่วทั้งภาพในเวลาอันรวดเร็ว ดูรูปให้ละเอียดเลยนะว่า ในรูปมีอะไรบ้าง หลักๆคือ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร มีคนกี่คน ใส่เสื้อผ้าแบบไหน ข้อสอบแบบใหม่นี้ลดเหลือเพียง 10 ข้อเท่านั้นค่ะ (น่าเสียดาย เพราะง่ายมาก) แต่ละข้อมี 4 choice ให้เลือกตอบครับ สิ่งที่ต้องระวังใน part นี้ก็คือ เสียงของคำที่ใกล้เคียงกันจะทำให้เราสับสน เช่น

- ในรูปมีเรืออยู่ แล้วเสียงของ choice จะมีทั้งคำว่า ชิพ (ship) และ ชีพ..(sheep) ฟังแล้วแยกให้ออกนะ

- หรืออีกอย่างหนึ่งคือ ชื่อคนที่อยู่ในโจทย์และในคำตอบไม่ตรงกัน เช่น ในโจทย์กำลังพูดถึง Jan (อ่านว่า แจน) แต่ใน choice อาจจะมีซักข้อนึงใช้ชื่อว่า Jane (อ่านว่า เจน) ก็อย่าหลงไปกาล่ะ ผิดเลยนะนั่น

เวลาฟัง ตั้งสมาธิดีๆ จะได้ไม่สับสนครับ

Part II Question-Response
มี 30 ข้อเหมือนเดิมครับ ตรงนี้เราจะได้ฟังเทปที่คน 2 คนคุยกัน ไม่มีโจทย์ให้อ่าน ไม่มี choice ให้อ่าน ต้องฟังเอาจากในเทปทั้งหมดครับ แต่ละข้อมี 3 choice ให้เลือกตอบครับ คำถามจะเป็นประเภท What, Where, When, How, Why, Would, Do you, Are you, Can you เป็นต้น บางคนแค่ได้ยินคำแรกคำเดียว ที่เหลือฟังไม่รู้เรื่องแล้วตอบถูกก็มีครับ

what – อะไร (ก็ตอบเค้าไปสิว่ามันคืออะไร) เช่น

what kind of position are you applying for? (คุณสมัครตำแหน่งอะไร? ตำแหน่งพนักงาน
ล้างจานอะไรก็ว่าไป)

Where – ที่ไหน (ระบุสถานที่มาเลย)

Where do you want to go today? (วันนี้คุณจะไปไหน? บอกชื่อสถานที่ไป ง่ายมะ)

When – เมื่อไหร่ (ระบุเวลามา พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ชาติหน้า) แต่อย่าสับสนเรื่องเวลาก่อนหลัง
เช่น

When will you come here? (คุณจะมาที่นี่เมื่อไหร่?)
a. Yesterday morning.
b. Last Monday.
c. I don't know.

จะตอบว่าไร ก็ต้องตอบว่าไม่รู้ใช่มั้ยล่ะ เพราะเค้าถามว่าจะมาเมื่อไหร่ แปลว่ายังไม่มา จะไป
ตอบว่า เมื่อวานตอนเช้า หรือเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ได้อย่างไร ต้องระวังตรงนี้นะ ข้อสอบชอบ
หลอก

How – อย่างไร (ทำอย่างไร ไปอย่างไร กินอย่างไร)

Why – ทำไม (ตอบเค้าไปว่าเพราะอะไร ถ้าข้อง่ายๆหน่อย มันจะมีคำว่า because)

Part III Short Conversation
มี 30 ข้อเหมือนเดิมอีกแล้ว ตรงนี้เราจะได้ฟังเทปที่คน 2 คนคุยกัน ยากกว่าเดิมนิดหน่อย เพราะดูเหมือนบางข้อจะคุยกันยาวขึ้นนิดนึง มีโจทย์ให้อ่าน มี choice ให้อ่านด้วย (มีการสนทนา 10 เรื่อง แต่ละเรื่องจะมีโจทย์คำถาม 3 ข้อ) ฟังเทปว่าเค้าคุยอะไรกันแล้วตอบคำถาม แต่ละข้อมี 4 choice ให้เลือกตอบครับ คำถามจะว่าประมาณว่า เค้าคุยกันที่ไหน? คนผู้หญิงที่พูดเป็นใคร? เค้าสองคนกำลังทำอะไรกัน? เทคนิคคือ อ่านโจทย์และ Choice ให้จบก่อนที่เค้าจะเริ่มสนทนากัน จะได้รู้ว่าเราควรจะจับประเด็นตรงไหน
Part IV Short Talks
เพิ่มเป็น 30 ข้อแล้วค่ะพี่น้อง และดูเหมือนมันจะไม่ค่อย short สักเท่าไหร่ พูดยาวขึ้นนิดนึง ตรงนี้เราจะได้ฟังเทป ที่มีคนหนึ่งคนกำลังพูดสาธยายอะไรซักอย่างอยู่อาจจะกำลังเอ่ยชื่นชมใครบางคน อยู่ หรืออาจจะกำลังยืนบ่นอะไรในที่ประชุม หรืออาจจะกำลังสาธิตสินค้าให้ว่าที่ลูกค้าฟัง ตรงนี้จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย เค้าพูดเร็ว รัว ยาว ถ้าใครฟังออกฟังทัน ก็หมูเลย แต่ถ้าใครฟังไม่ออก ฟังไม่ทัน ก็ใช่ว่าจะหมดหนทาง เอาเป็นว่าในระหว่างที่ฟังเค้าพูดหรือบ่นอยู่นั้น ให้กวาดสายตาไปให้ทั่วทั้งคำถาม และ choice ทั้ง 4 ไปด้วย จะเป็นแนวทางคร่าวๆว่าเรากำลังฟังอะไรอยู่ พอเค้าพูดจบ จะมีเวลาให้เราฝนคำตอบแต่ละข้อนิดหน่อย 2-3 วินาที รีบฝนนะ อย่าลังเล เดี๋ยวเค้าเริ่มพูดเรื่องใหม่แล้วจะตกใจ ลน สมาธิกระเจิง
Reading
แบ่งออกเป็น 3 part ย่อย มีทั้งหมด 100 ข้อ ใช้เวลา 75 นาที ควรแบ่งเวลา ดังนี้ Part V, VI รวมกันมี 60 ข้อ ควรจะใช้เวลา 35 นาที เฉลี่ยแล้วตกข้อละ 35 วินาที จะได้เหลือเวลาสำหรับ Part VII 40 นาที (เพราะมี 40 ข้อ แต่มันต้องใช้เวลาในการหาคำตอบ เฉลี่ยแล้วตกข้อละ 1 นาที) ที่พูดมาทั้งหมด ไม่มีเวลาตรวจทานนะคะ ผ่านแล้วผ่านเลยค่ะ
Part V Incomplete Sentences
ชื่อมันก็บอกว่าประโยคไม่สมบูรณ์ จงทำให้มันสมบูรณ์ โดยโจทย์แต่ละข้อจะเว้นที่ว่างไว้ 1 ที่ เพื่อให้เราเติม โดยจะเอาอะไรมาเติมนั้นก็ดูใน choice ทั้ง 4 ใน part นี้เราต้องไปศึกษาว่าในประโยคหนึ่งๆนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง (ประธาน กริยา กรรม) คำนามวางไว้ตรงไหนและอะไรคือคำนาม คำคุณศัพท์วางไว้ตรงไหนและอะไรคือคำคุณศัพท์ คำกริยาวิเศษณ์อยู่ตรงไหนได้บ้างและมันหน้าตาเป็นอย่างไร

เช่น approximate กับ approximately คำไหนเป็น Adv. คำไหนเป็น Adj. ถ้าเรารู้แล้วก็ต้องรู้อีก ว่า จะเอา มันไปวางไว้ตรงไหนของประโยค

แต่มันไม่ได้มีแค่นี้หรอกนะ มันคือความรู้เรื่อง grammar ทั้งหมดอ่านมาให้หมดเลยนะ แล้วจะดีเอง....มี ทั้งหมด 40 ข้อเหมือนเดิม อย่าลืมนะว่า ใช้เวลาให้น้อย เฉลี่ยข้อนึง 35 วินาที ถ้าทำได้ รอด
Part VI Replaced with Text Completion
อัน นี้แต่เดิมเป็น Error Recognition ซึ่งเราไม่ชอบเอามากๆ คราวนี้เค้าเปลี่ยนเป็น Text Completion แทนที่ด้วยข้อความเสร็จสมบูรณ์ คือจะเนื้อหาเรื่องราว หรือป้าย บัตรเชิญ บทสนทนาอะไรต่างๆ แล้วจะเว้นที่ว่างไว้ในบางคำ เพื่อให้เราตอบว่าคำนั้นที่ว่างเว้นไว้ คืออะไร
ประมาณนี้
The Government plans to give (14) $............................................ to assist the farmers. This money was to be spent on improving Sydney’s
(15)............................................ but has now been re-allocated. Australia has experienced its worst drought in over fifty years. Farmers say that the money will not help them because it is (16) ................................................................

มี choice ให้เลือกตอบค่ะ มีทั้งหมด 12 ข้อ
Part VII Reading Comprehension
อย่างที่บอก รีบๆทำ part อื่นให้เสร็จเร็วๆ จะได้เหลือเวลามาทำตรงนี้มากหน่อย เพราะเค้าเพิ่มเป็น 48 ข้อแล้วค่ะ (single passages 28 ข้อ และ double passages 20 ข้อ) ถามว่ายากมั้ย ตอบเลยไม่ยาก แต่... แต่... แต่... ใช้เวลาเยอะยิ่งนัก ทุกๆ 3-4 ข้อ จะมีเนื้อเรื่องมาให้เราอ่าน อาจจะเป็นป้ายโฆษณา จดหมาย บัตรเชิญ ประกาศ แฟกซ์ ตารางเวลา ฯลฯ บอกไว้เลยนะ ว่าอย่าไปอ่านเนื้อเรื่องก่อน เสียเวลาสุดๆ ลงมาอ่านโจทย์เลยว่ามันต้องการอะไร มันถามอะไร เสร็จแล้วค่อยไปค้นหาคำตอบในเนื้อเรื่องข้างบน คำตอบอยู่ในเนื้อเรื่องนั่นแหละ ถามกันแบบตรงๆเลย แค่หาเจอก็ตอบได้แล้ว อ้อ!! อย่าหานานนะ เวลามีน้อย
(เว้นเสียแต่ว่า โจทย์จะถามว่า บทความนี้ต้องการบ่งบอกอะไร TOPIC ของเรื่องคืออะไร เราก็ค่อยไปอ่าน อย่างรวดเร็วแล้วจับใจความ สำคัญมาให้ได้)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น